อยู่ดูไบเป็นไงเหลออออ

อยู่ดูไบมาจะสามเดือน ยังไม่ได้อัพรูปที่พักให้ญาติสนิทมิตรสหายทางบ้านได้ชมเลย
ดิฉันพักอยู่ซาหรับ ละแวกที่พักยอดฮิตติดอันดับความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น

อย่างที่รู้ๆกัน ที่พักสำหรับแอร์เอมิเรตส์นั้น ฟรี!!!!
โดยทางบริษัทจะจัดสรรที่พักให้ ละแวกไหนก็แล้วแต่จำนวนแต้มบุญที่สะสมกันมา

ปล่อยนกปล่อยปลาเข้าวัดฟังธรรมบ่อย ก็ได้อยู่ตึกไฮโซใจกลางเมือง มีรถไฟฟ้าเข้าถึง เดินทางสะดวก หาของกินง่าย ใกล้ห้างดัง

ส่วนถ้าขี้อิจฉา ด่าพระ(นพดล) นินทาแม่ชี ก็นู่น... ไปอยู่กลางทะเลทราย โนรถไฟฟ้าโนฟาสฟูด กักบริเวณตัวเองอยู่ในห้องเปิดเพลงกีรติฟัง (นี่ตัวฉันผิดหรือไรรร ฉันต้องใช้หนี้กรรมให้ใครร)


ดูจากรูปก็รู้เลยสินะคะว่าอยู่ในกลุ่มไหน

ล่าสุดมีการก่อสร้างตรงข้ามห้องพอดี อะไรจะเป็นใจขนาดนี้คะ

แต่ถึงกระนั้น คุณภาพห้องส่วนใหญ่ก็ใกล้เคียงกันทุกตึก
คือเมื่อมาพำนักอยู่แล้วนั้น ทุกคนจะมีห้องน้ำและห้องนอนส่วนตัว โนแชร์โนสน
หากแต่ต้องแชร์ห้องครัวและห้องนั่งเล่นกะรูมเมทอีกหนึ่งหรือสองคน

ภายในห้องนอน ประกอบด้วย เตียงควีนไซส์ โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะหัวเตียงพร้อมโคมไฟ และตู้เสื้อผ้าบิ้วอินขนาดหย่ายย ส่วนห้องน้ำก็แล้วแต่ บางตึกมีอ่างอาบน้ำ บางตึกไม่มี แล้วแต่แต้มบุญอีกเช่นกัน




ห้องพักติดแอร์ทุกห้อง อุณหภูมิถูกควบคุมโดยระบบศูนย์กลางของตึก ซึ่งสามารถปรับได้สามระดับ คือ หนาว หนาวเนอ และ หนาวเนส (ตามหลักแกรมม่าความหนาวสามขั้น) ไม่สามารทำให้อุ่นได้ ถ้าปิดแอร์ห้องจะหนาว ถ้าปรับให้ร้อนห้องก็จะหนาว ถ้าปรับให้หนาวก็จะหนาวยิ่งขึ้นไปอีก

เวลาอยู่ห้อง ต้องใส่เสื้อผ้าเหมือนจะไปขึ้นเขาจุงฟราวที่สวิตเซอแลนด์ เพราะมันหนาวเนสจริงๆ แต่อีกอย่างคือพอไม่ปิดแอร์ อากาศมันก็แห้งมาก หายใจไม่ค่อยสะดวก ฟึดฟัดตลอด ไอ เป็นหวัดง่าย นอนตื่นมารู้สึกคอแห้งผากประหนึ่งขี้อูฐจากดูไบไปอาบูดาบี

นี่ก็เลยไปสืบค้นจากพันทิปหาวิธีแก้ (วิธีแก้ปัญหาของปัญญาชน ปรึกษาผู้รู้แห่งพันทิป) บ้างบอกให้เอาน้ำตั้งไว้ บ้างว่าเอาผ้าชุบน้ำวางไว้หัวเตียงก็ว่าไป ก็ทำตาม แต่ก็ไม่ดีขึ้น กลับไปค้นหาใหม่ เขาก็ว่าให้ซื้อเครื่อง humidifier แต่เราก็กลัวราขึ้น (เคยมีประสบการณ์ฟาดฟันกับราบนกำแพงที่สิงคโปร์มาแล้ว ไม่ต้องการจะเจอะเจอกันอีก ก็เลยตัดตัวเลือกนี้ไป)

จนสุดท้ายมาจบที่ aroma diffuser จริงๆมันเอาไว้ปล่อยละอองกลิ่นอโรมา ช่วยผ่อนคลาย (ณ จุดนี้ หลังกลับจากไฟลท์เทินหนักๆ เราก็ต้องการกลิ่นดีๆมาปลอบโยนหัวใจเหมือนกัน) แต่มันก็ใช้น้ำปล่อยออกมาเหมือนกัน พอกูเกิลข้อดีก็พอถูไถใช้แก้ขัดได้ ก็เลยไปจัดมา ของมูจิ แบรนด์ประจำนำชีวิต ซื้ออันเล็ก ใช้ได้นานสุดสามชั่วโมง วางไว้หัวเตียง เหยาะน้ำมันกลิ่นกุหลาบ เปิดสวิชต์ แล้วก็เข้านิทราอย่างสุขสมอารมณ์หมาย

อ้อ แล้วก็ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ จะหนาวแค่ไหนก็ไร้กังวล ดีไปอีกคือค่าน้ำก็ไม่เสีย ส่วนค่าแก๊สเหรอออ... คืออะไร ไม่รู้จัก สิ่งที่ต้องเสียอย่างเดียวก็คือ อินเตอร์เนต/ไวไฟ เลือกแพคเกจที่ชอบ ค่ายที่ใช้ แล้วก็รูดบัตรไปแบบไม่ต้องคิสสสส


จบเรื่องห้องนอน ต่อที่ห้องครัว ซึ่งประกอบด้วยเตาแก๊สและเตาอบ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักๆที่มีให้คือ เครื่องซักผ้าและตู้เย็น เมื่อมาถึงวันแรก บริษัทจะมอบกล่องหรรษามาให้หนึ่งใบโต ในนั้นประกอบด้วยจานชามแก้วหม้อช้อนส้อมเชียงมีดกรรไกร มีเครื่องครัวทุกอย่าง พร้อมตะกร้าอาหารสำเร็จรูปและขนมคบเคี้ยวประทังชีวิตช่วงสองสามวันแรก




พอเริ่มลงตัว มีเงินมีทองก็สามารถจัดหาเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆมาเพิ่มเติมได้ตามอัธยาศัย นี่ก็ซื้อตั้งแต่ไดร์เป่าผม เตารีด ไมโครเวฟ เครื่องดูดฝุ่น ยันเครื่องปริ้น

ความลากริโมว่าซื้อไม้ถูพื้น ถังขยะ และสิ่งจิปาถะ (แขกงง ไม่เคยเห็นรถเข็นคนรวย(หนี้)ละสิ)

ที่โต๊ะกินข้าวมันตั้งเข้าไปติดกำแพง เพราะเมทเอาไว้ตากผ้า ถามกันยังงงงอะ ทำไรไม่ปรึกษา แล้วทางนี้จะกินข้าวไหนคะที่รัก อ๋ออออ ตอบเอง กินในห้องนอนข่าา คนมาทีหลังก็ต้องพ่ายแพ้ไป แต่ไม่เป็นไรเราจะตอบโต้ด้วยการเข้าครัวผัดกะเพรา ผัดฉ่า ผัดขี้เมาบ่อยๆเวลาเมทที่รักตากผ้า (ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบปัญญาชนอีกแล้วค่ะ เล่นสงครามประสาท แบบประสาทอยู่คนเดียว)




ไหนๆก็เข้าเรื่องเมทแล้ว ตอนแรกมีเมทสองคน คนนึงมาจากไอร์แลนด์ คนนึงมาจากเกาหลีใต้(มาจากเหนือสิแปลก) ไม่ค่อยได้คุยกัน อยู่กันแบบใช้คิวเสียงประตูและเสียงการทำครัว ถ้ามีคนก๊อกแก๊กอยู่ห้องครัวหรือห้องนั่งเล่น ก็มั่นใจได้ว่าอีกสองคนจะไม่โผลหัวออกไป ซึ่งก็ดี สบายดี เหมาะกะคนintrovertวัยเกินเบญจเพสแบบเรา

แต่ตอนนี้เกาหลีได้จากเราไปแล้ว ขอให้เธอมีชีวิตที่ดี ดีใจที่ได้มีเธอแม้จะช่วงเลาสั้นๆของชีวิต (จริงใจแค่ไหนลองตรองดู) นางก็โอเค แค่ไม่ยอมให้ยืมที่คว่ำจาน เอออ ซื้อเองก็ได้ งอนนน ทีเราซื้อไมโครเวฟยังแชร์ให้เธอใช้เลย... ตั้งแต่นางไปชีวิตก็สงบขึ้น เพราะตอนนางอยู่ชอบปิดประตูปลุกนี่ตลอด กลัวเราจะหลับสบายเกินไป ต้องปึงปังให้รู้ว่ากลับมาแล้วจ้าาา (ฮือออ ถึงจะใช้ชีวิตแบบคิวเสียงประตู แต่ไม่ต้องดังขนาดนั้นก็ได้ เกรงใจบานประตูบ้าง)

ส่วนเมทไอร์แลนด์ นางไม่ค่อยอยู่บ้าน ชอบออกไปข้างนอก แต่เวลาที่นางอยู่และนางเข้าครัว เหมือนจะเผาบ้าน มีวันนึงตื่นนอนเดินออกจากห้องมาพบกับความตกใจ ทั้งบ้านนี่ควันคุ้ง กลิ่นเนยหึ่ง นี่ทำเบเกอรี่หรือจะเบคดิฉันคะ แรกๆก็คิดว่าคงจะมีการผิดพลาด หลังๆเจออีก เลยเข้าใจว่าคงจะเป็นกระบวนการทำขนมปังของชาวไอร์แลนด์ที่ได้รับการการันตีจากคุณหมึกแดง (วันก่อนนางเอาอีก ผ้าที่ตากไว้กลิ่นเนยน่ากินเลยค่ะคุณ) ถ้าบังเอิญเปิดประตูมาเจอกันนางจะชอบชวนคุย เราก็ได้แต่ยิ้มๆ เออ ออ เยสๆ โอ วายย ไม่ใช่เขินหรืออะไร แต่ชั้นฟังสำเนียงไอริชเธอไม่ออกค่ะซิสสสส

อ้อออ แล้วทีดีไปอีกคือเครื่องซักผ้าตั้งอยู่ตรงข้ามห้องนี่เองงง ทายสิ ใครซักผ้าตอนสี่ทุ่ม ฮายยยย เมทสองคนของเราเองงงไงงง เหมือนซักผ้าแกล้งกัน (หรือนี่จะเป็นการตอบโต้สงครามประสาทของเรา) ซักไม่พอ ปั่นแห้งไปอีก ครืนนนนนน ละโหมดที่เลือกนะ ไม่เคยเลือกโหมดซักสั้นๆครึ่งชั่วโมงกันหรอก นู่นต้องซักกันแบบสองชั่วโมงตลอด... (ทำไมคะคุณกีรติ ดิฉันทำอะไรผิดดด สรุปนอนเที่ยงคืน)



จบการเม้าเมทไว้เท่านี้ก่อน มาพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มาพร้อมกับที่พัก สิ่งแรกที่ถูกใจคือสระว่ายน้ำ มาแรกๆก็ดีใจ โอออ มีที่ให้ว่ายน้ำใกล้แค่เอื้อม ต้องได้ไปว่ายบ่อยๆแน่นอนน ที่ไหนได้ เทรนเหนื่อย หมดแรง แถมทรายพัดรุนแรงมากค่ะ สระเลยดูไม่น่าว่ายเท่าไหร่ เพราะมันoutdoor ว่ายๆไปเงิบหน้าขึ้นมาหายใจทรายจะเข้าจมูกไหมคะ

ข้างสระว่ายน้ำมียิม ยิมที่มีลู่วิ่งสองอันและคนใช้สิบคน หอยยย ลงมาไม่เคยได้วิ่ง ต้องกลับขึ้นไปเปิดยูทูป เลือกคลิปพวก 30 minutes workout แล้วทำตามเอาค่ะ ล้องไห้แลงๆๆ (หลังๆวางแผนลงมาเล่นตีห้า จะได้ไม่มีคน แต่เราก็ได้แค่วางแผน เพราะไม่เคยตื่นหรอก)

ตรงข้ามตึกมีมินิมาร์ท ข้างๆตึกมีมินิมาร์ท เยื้องๆตึกก็มีมินิมาร์ท ของกินของใช้ก็ครบถ้วน แต่ราคาไม่ถูกจริตเท่าไหร่ พอใช้แก้ขัดได้ มีร้านขายยาอยู่ร้านเดียว เปิดเวลาที่เราไม่ต้องการ และปิดเวลาที่เราต้องการ (คนมันมากับดวง)


ก็ประมาณนี้นะคะในส่วนของที่พัก (ยืมสำนวนพริตตี้มาใช้)

เรื่องการเดินทางไปทำงาน มีรถบัสประจำทางของบริษัทไปรับ-ส่งสนามบินตลอด เชคเวลาได้ ฟรีอีกเช่นกัน

ในส่วนของยูนิฟอร์ม ทุกคนสามารถส่งซักฟรีได้ที่head quarter ก่อนไปบินก็เอาไปดรอป แลนด์มาก็ไปรับคืน แต่ๆๆๆ มีความพิเศษ เนื่องด้วยความที่เราเป็นชุมชนคนบาป ห่างไกลแสงธรรม เราจึงมีร้านซักรีดเป็นคนตนเอง มิต้องไปเบียดเสียดแย่งคิวกันที่HQ สวยๆสะบัดผ้า!


อาาาห์ ท้องร้องละ ต้องลากันตรงนี้ สวัสดีค่ะ

Comments

  1. เรากำลังจะลองสมัครเป็นแอร์ดูค่ะ เลยมาหาบลอคอ่าน ไปๆมาๆนั่งอ่านแล้วนั่งขำอยู่คนเดียว ชอบเรื่องที่เล่ามากๆเลยค่ะ รวมถึงสำนวนด้วย เราตลกกกแต่ไม่อยากพิม 55555555 ยาวมากไปปป

    สนุกมากค่ะ จะขอเป็นแฟนคลับแบบห่างๆ (ไม่ห่างงได้ไง เพราะจะว่าไปก็คนละซีกโลกเลยนี่เนอะะะ) ไว้จะพยายามสู้แบบนี้บ้างนะคะะ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณมากเลยนะคะะ หวังว่าพอจะมีประโยชน์บ้าง 555555 มีอะไรสงสัยทักมาถามได้เลยค่า ยินดีช่วยเหลือค้าบบ :)

    ReplyDelete
  3. ชาบอ่านบลอกนึ้มากกกกฯ มาเจอต่อนหาข้อมูลSG อิอิ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณนะคะะะะ จะหาเรื่องมาเล่าเรื่อยๆน้าา

      Delete

Post a Comment

Popular Posts