แอร์สาวที่หายตัวไป


ไหนๆก็คัมแบคสเตจแล้ว เราจะไม่เกริ่นถึงประเด็นที่หายไปกว่าสองปีก็ดูจะไร้มารยาทกันไปสักหน่อย 

ที่ดิฉันหายตัวไป ไม่ใช่ว่าจะเป็นปริศนาธรรมอะไรที่ชวนให้ตีลังกาขบคิด ดิฉันหายไปก็เพราะว่าหายไป ไม่มีเหตุผลค่ะ แค่ลืม แบบลืมไปเลยว่าเคยมีเรื่องเล่า 555555 แบบว่าชีวิตมันต้องบินๆกินๆนอนๆ รู้ตัวอีกทีก็เหนื่อยจัง ขอฝังร่างกับเตียงก่อน แล้วพอนานวันเข้าก็ลืมเรื่องที่อยากเล่าไปเสียสนิท

ค้างกันไว้คราวนู้นที่เรื่องราวการพาแมวเข้ามาอยู่ของรูมเมท น้องแมวที่ดิฉันตั้งชื่อให้ว่าเปี่ยม ไม่ทราบว่าทุกวันนี้น้องมีชะตากรรมเป็นอย่างไร เพราะทางเราได้ย้ายออกมาจากอพาร์ทเม้นท์นั้นได้กว่าสองปีแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณแมวเปี่ยมที่ทำให้ดิฉันเอ็นดูสัตว์มากขึ้น ทุกวันนี้สามารถขำขันไปกับคลิปสิงสาราสัตว์ได้อย่างสะดวกใจ (ยกเว้นแต่ลิง) และสามารถส่งเสียยย 'งุ้ยยยย น้อนนน' กับหมาแมวข้างทางได้บ้างง

สมัยที่ยังอาศัยอยู่กับเปี่ยม น้องเหมือนแมวริวจิตสัมผัส เหมือนรับรู้ว่าเราไม่ชอบ เลยยิ่งมานัวเนีย ชอบมาเดินนวดนาดตอนที่ยืนล้างจานเงียบๆ เอาหางมาปัดโดนขา ทำเอาคนขวัญอ่อนอย่างเราสะดุ้งแรงเพราะคิดว่าผีหลอก หรือบางทีที่เราเดินผ่านหน้าห้องนอนเมทที่แง้มไว้ แมวเปี่ยมก็จะชอบนั่งนิ่งๆส่งสายเย็นชาวิบวับสีแดงในความมืดใส่ จนเราต้องตกใจทุกที แต่ทุกวันนี้พอไม่มีเปี่ยมมากวนใจก็ดันแอบอยากเลี้ยงแมวขึ้นมาซะอย่างนั้น รู้สึกว่าเป็นสัตว์ที่กวนประสาทดี น่าจะเหมาะกับคนแบบเรา 


นอกจากย้ายที่พักมาตึกใหม่แต่ในละแวกเดิมแล้ว เรื่องอื่นๆก็ดูจะเป็นไปตามปกติค่ะ บินหนัก กินหนักจนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่กินเยอะจนร่างกายอวบอัด รู้สึกตัวอีกทีก็คือแม่ทักว่า มันไม่ไหวแล้วไหมลูก ก็เลยหันมาคุมอาหารและเริ่มเส้นทางการออกกำลังกายค่ะ

ตอนนั้นก็เลยจะวุ่นๆกับการคิดเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและทุ่มเทเวลาไปกับการออกกำลังกาย (ฝากไอจีอีกทีนะคะ @rosycheeks.diet) จนถึงตอนนี้ก็ทำมาปีกว่าแล้วจ้ะ อยากแก่ไปโดยไร้โรคภัย อยากเป็นหญิงชราที่ขาแข้งดี ก็เลยต้องดัดนิสัยการกินเละๆเทะๆของตัวเอง จากคนที่สามารถตักนูเทลล่ากินเปล่าๆได้จนเกือบหมดกระปุกแบบไม่แยแส หรือ แค่อยากของหวานจนต้องไปควักน้ำตาลปี๊บมากินเล่น กลายมาเป็นบุคคลที่สามารถงดของหวานแบบเอ็กซ์ตรีมได้ยาวนานถึงครึ่งเดือน

และจากที่ไม่ออกกำลังกายเลย วันๆคือนอนอ่านหนังสือ นอนเล่นมือถือ ย้ายจากเตียงไปโซฟา จากโซฟาไปเก้าอี้เอนหลัง ขยับตัวน้อยมาก ทำให้ช่วงนั้น(หรือจริงๆก็คือชั่วชีวิตที่ผ่านมา)ป่วยบ่อย เดี๋ยวเป็นหวัด เดี๋ยวเจ็บคอ เป็นนู่นเป็นนี่ตลอด ไปพบแพทย์ แพทย์ได้ชี้ทางสว่างให้ ท่านบอกให้ไปออกกำลังกายบ้าง ปอดกับหัวใจจะได้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัย นั่นแหละค่ะ ดิฉันก็เลยต้องหันมาดูแลตัวเองให้เยอะขึ้น  ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นผลจริงๆนะคะ ร่างกายแข็งแรงขึ้น สุขภาพดีขึ้น 


ส่วนเรื่องหน้าที่การงานก็เป็นไปอย่างราบรื่นนะคะ ไอเลิฟมายจ๊อบ เพื่อนร่วมงานดี ผู้โดยสารน่ารัก โชคดีที่เป็นคนไม่ค่อยมีปัญหากับใครด้วยค่ะ ทำงานของเราไป ใครอยากได้อะไรก็จะหามาให้ เลยสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข ไม่ทุกข์ร้อนใจ

มีคนเคยสงสัยว่าถ้าเราเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม อารมณ์หนุ่มสาวอินโทรเวิร์ดอะไรแบบนั้น แล้วเราจะเหมาะกับงานแอร์ไหม จากประสบการณ์การการบินมากว่า7ปี สามารถบอกได้เลยค่ะว่าบุคลิกแบบไหนก็ทำงานนี้ได้ทั้งนั้น 

เราเจอมาทั้งแอร์ที่พูดคุยเก่ง ชุมชนชาวเอ็กซ์โทรเวิร์ด สดใสร่าเริง เข้ากับคนง่าย เจอผูู้โดยสารปุ๊ปทักทายชวนคุยได้ปั๊ป เล่นมุกตลกสร้างบรรยากาศและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีไปอีก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ (จากที่ผู้โดยสารกำลังโมโหเรื่องไก่หมด ไม่รู้พูดกันอีท่าไหน ผู้โดยสารกลายเป็นแฮปปี้หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังซะงั้น)

แต่ก็มีแอร์อีกจำพวกที่อาจจะพูดไม่เก่ง แต่รัก(ผู้โดยสาร)หมดใจ ถ้ารู้ว่าชอบอะไร จะหาให้เธออออ เฮออ (เพลงบอกอายุอีกแล้ววว) อีกจำนวนมากเช่นกัน แอร์ประเภทนี้ถึงจะแสดงออกทางคำพูดน้อย แต่การกระทำเยอะ ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือลูกเด็กเล็กแดง ขันอาสาดูแลผู้สูงอายุอย่างแข็งขัน ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ครัวนิ๊ง ห้องน้ำเนี๊ยบ

ซึ่งพอเอาแอร์สองจำพวกมาทำงานร่วมกันเป็นทีม มันก็เป็นอะไรที่เปรี้ยวหวานลงตัวเป๊ะเพราะอย่างที่ทราบกันดีนะคะว่างานจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเราต้อง put the right man on the right job 

สำหรับเรา แต่ก่อนการได้นั่งเงียบๆในมุมมืดช่วงไฟลท์ดึกดื่นข้ามคืนแล้วคอยเปิดประตูห้องน้ำให้ผู้โดยสารที่ไม่คุ้นชินกับการเข้าห้องน้ำบนเครื่องบินก็ถือเป็นสุขใจแล้วค่ะ (push ตรงกลางของบานประตูนะคะ) แต่เพราะนังโควิดตัวดี ต่อไปนี้คงต้องละหน้าที่โปรดนี้ไว้ เก็บเป็นความทรงจำสมัยยังรุ่งโรจน์ก็พอค่ะ


ยิ่งช่วงนี้ที่ธุรกิจสายการบินและงานบริการต่างๆทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างแรง ทุกประเทศจำกัดการเข้าออก ไม่มีคนเดินทาง ไม่มีเที่ยวบินทุกวันแบบเคยๆ ทางเราก็เหงาหงอยจ๋อยใจอยู่เหมือนกันนะคะ คิดถึงบรรยากาศการทำงาน คิดถึงสำเนียงอังกฤษของเพื่อนร่วมงานที่เคยโปรดปราน คิดถึงการพับทิชชู่สามเหลี่ยม คิดถึงแม้กระทั่งการเดินขาขวิดในสนามบินใหญ่ๆที่ระยะทางจากเค้าท์เตอร์เชคอินไปตัวเครื่องไกลจนสุดหล้าฟ้าเขียว

แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปนะคะ ทุกคนตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบกันไปหมด หนักบ้างน้อยบ้างก็ต้องสู้ต้องดิ้นรนกันไป อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับบบมันน ตามความคิดสติเราให้ทันนะคะ พี่บอยเขาฝากไว้

เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังลำบาก จงมีหวังเสมอ ✌🏻 ด้วยความปราถนาดีจริงๆจ้า 












 
 

Comments

Popular Posts